Design & Feature ลึกลับกับความจริงจังของ Audi

1.jpg
2.jpg

เชื่อว่าแฟนๆ หลายคน คงคิดคล้ายๆ เราว่าเหตุผลที่เราทุกคนเลือกใช้ Audi อยู่ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Audi เอาจริงเอาจังกับการออกแบบรถยนต์มาก นับตั้งแต่ยุคแรกเริ่มมาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้แนวคิดเดียวกับสโลแกนคือ “Vorsprung durch Technik” (โฟชโปรง ดุร์ช เทคนิก) เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า ‘ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี’ ซึ่งความล้ำหน้าที่ว่าไม่ใช่แค่นำเสนอให้เห็นแค่ความสามารถทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังลึกซึ้งถึงเรื่องการออกแบบรถยนต์ ตั้งแต่ภายนอก ไปจนถึงภายในซึ่งสอดคล้องไปกับทุกสัดส่วนขององค์ประกอบการใช้งานของ Audi ได้อย่างลงตัว

Audi เริ่มต้นการออกแบบโดยอาศัยคนรุ่นใหม่ ผู้เชี่ยวชาญที่อายุไม่มากจนเกินไป เพื่ออาศัยไอเดียที่สดใหม่อยู่เสมอ มาเป็นส่วนเสริมสำคัญในขั้นตอนการออกแบบรถยนต์แต่ละรุ่น โดยให้พนักงานซึมซับแนวทางของแบรนด์ ด้วยแรงบันดาลใจ ที่นำมารวมกับเทคโนโลยีของ Audi ได้อย่างเต็มที่ ดีไซน์ถูกกำหนดไว้ชัดเจน เช่น โครงรถที่เป็นชิ้นเดียวกัน (ASF) ดีไซน์หลังคาโค้งมน และไฟท้ายรถที่มีเอกลักษณ์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ของ Audi ทุกคันแสดงตัวตนของแบรนด์ ได้อย่างชัดเจน นอกจากดีไซน์ที่สวยงามแล้ว ทั้งหมดยังต้องอาศัยความสามารถ ทางด้านวิศวกรรม เพื่อให้ส่วนสำคัญต่างๆ ที่อยู่ในรถยนต์ เมื่อมารวมกันจะเกิดความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่มากที่สุด

3.jpg

ความพรีเมียมที่สะกดสายตา ตรึงใจตั้งแต่แรกเห็น (Exterior design)

Audi ต้องการให้ทุกสายตาจับจ้องตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ จึงสะกดความประทับใจด้วยดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นเส้นขอบ ของแนวหลังคา ไปจนถึงส่วนต่างๆ ของตัวรถ ทุกๆ ดีไซน์เน้นแสงเงาของขอบสัดส่วนต่างๆ ซึ่งผ่านการคิดมาอย่างพิถีพิถัน สอดคล้องไปกับประตูทางเข้าที่ชัดเจน กว้างขวาง ทั้งหมดอยู่บนโครงสร้าง Audi Space Frame (ASF) นวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ที่เริ่มต้นคิดค้นมาตั้งแต่ปี 1994 กับการสร้างรถยนต์ที่ทำด้วยโครงสร้างจากรถอลูมิเนียมทั้งคันในรุ่น A8 ในยุคเดียวกัน ถือว่าเป็นความล้ำหน้ามากในยุคนั้น

นวัตกรรมใหม่ในครั้งนี้ ช่วยทำให้ตัวรถให้มีน้ำหนักเบา แต่ยังคงเต็มไปด้วยพลังการขับเคลื่อนและยังให้ความสำคัญ ในเรื่องของความปลอดภัย ไปจนถึงการออกแบบเป็นการศึกษาทางด้านเสียงเชิงพลศาสตร์ (Acoustics) ช่วยลดเสียงรบกวน จากภายนอกได้จากการออกแบบรูปทรงกระจกด้านนอกที่ทำให้ขณะขับรถลมที่ผ่านหมุนเวียนอย่างสะดวก โดยไม่ทำให้เกิด เสียงรบกวน รวมไปถึงการออกแบบรถยนต์ให้มีแอร์โรไดนามิค (Aerodynamic) ซึ่งจะช่วยลดแรงต้านอากาศ ลดเสียงรบกวนจากลม และเสียงจากไอ ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ และยังช่วยประหยัดน้ำมัน ไปจนถึงไฟ LED ที่ใช้ประกอบอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความสวยงามจากในแง่ของการดีไซน์ได้อย่างโดดเด่น และยังช่วยในเรื่อง การมองเห็นในการเดินทางด้วย

4.jpg
Credit: Audi Deutschland

ทุกการสัมผัสแห่งความคราฟท์ สุดเอกซ์คลูซีพ (Interior design)

Audi นิยามความหมายของความสะดวกสบายขึ้นใหม่ ด้วยการให้ความสำคัญกับรายละเอียดความคราฟท์ภายในยานยนต์ของ Audi ซึ่งเสน่ห์อยู่ที่ความซับซ้อน ทั้งสไตล์ความสะดวกสบายที่เฉพาะตัว การตกแต่งภายในอย่างสวยงาม จึงทำให้ห้องโดยสาร สร้างความสุนทรีย์ให้กับทุกการขับขี่ Audi เลือกทีมงานที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผลิตหนัง มาพัฒนาหนังวัวคุณภาพสูง ด้วยเทคนิคการฟอกหนังก่อนนำมาเป็นส่วนสำคัญในการทำเบาะนั่งและส่วนต่างๆ ด้านใน นอกจากนี้ Audi ยังตั้งทีม “The Audi Nose Team” หรือ ทีมดมกลิ่นของ Audi เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าภายในรถยนต์ ของ Audi ไม่มีกลิ่นแปลกปลอม ไม่ว่าจะกลิ่นพลาสติก ไปจนถึงกลิ่นโลหะที่ทำลายสุขภาพของผู้ใช้รถ Audi แม้แต่เบาะหนัง หรือ พื้นพรม ทุกชิ้น ส่วนล้วนผ่านการตรวจสอบการดมกลิ่นโดยจมูกของมนุษย์ เพราะเป้าหมายของ Audi คือต้องการให้ กลิ่นภายในรถยนต์ของ Audi ทุกคันมีความเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งเครื่องจักรไม่สามารถทำได้ ไม่ปล่อยผ่านทุกรายละเอียด อย่างการเก็บรายละเอียดต่างๆ ว่าจะเป็นอย่างช่องไฟ ร่องโครเมียม หรือแม้แต่ปุ่มกดก็ต้องให้ความรู้สึก ของการสัมผัส ที่หนักแน่นเท่ากัน เช่นเดียวกับเสียงปิดประตูรถ ที่ให้วิศวกรมาฟังและจูนขอบยางให้ได้โทนเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความเป็น Audi มากที่สุด แม้ดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานส่วนต่างๆ ของรถยนต์ Audi จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่สิ่งไม่เคยเปลี่ยน คือแนวคิดหลักที่ต้องการสร้างความสะดวกสบายสไตล์พรีเมียม ผ่านการผสมผสานความล้ำหน้า ของการดีไซน์ที่แตกต่าง และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้ทุกการขับขี่ Audi เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

https://www.audiusa.com/technology/design/interior-design

สำหรับแฟนๆ Audi คนไหนที่ชอบเรื่องราวลึกๆ ของ Audi ลองกดติดตาม Audi Thailand ไว้นะครับ กองบรรณาธิการของ Audi จะนำเสนอเรื่องราวให้คุณอย่างต่อเนื่อง